เพลง เป็นวรรณกรรมชนิดหนึ่งที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราว และความรู้สึกออกมาถึงคนฟังได้ โดยการฟังเพลงช่วยทำให้ผู้ที่ได้ฟังเกิดความจรรโลงใจ หรือคล้อยตามไปกับเนื้อหาของเพลงได้ ประวัติศาสตร์ของเพลงนั้นก็มีมานานแล้ว ในแต่ละยุคก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามองค์ประกอบหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสังคม ทำให้เพลงเองก็เกิดความเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แล้วการฟังเพลงในยุคก่อน กับการฟังเพลงในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกันไหม หรือแตกต่างอย่างไร ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงกัน
วิวัฒนาการการฟังเพลง
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า เพลงนั้นเป็นสิ่งที่มีมานาน การฟังเพลงเองก็เช่นกันที่ผู้คนมากมายเลือกฟังกันมาเป็นเวลายาวนานแล้ว สำหรับการฟังเพลงในสมัยก่อนนั้นก็เริ่มต้นมาจากการใช้แผ่นเสียงที่มีต้นเกิดมาเมื่อช่วงปี 1887 การฟังเพลงจากผ่านเสียงนับว่าเป็นศาสตร์ที่ล้ำลึก ในปัจจุบันเองก็ยังมีแผ่นเสียงขายอยู่ ซึ่งมักจะมีการซื้อขายกันเป็นของสะสมจึงทำให้แผ่นเสียงมีราคาที่แพงขึ้นมาก ๆ ต่อมาในปี 1962 ก็เป็นปีของเทปคาสเซ็ท เป็นช่วงที่หลาย ๆ คนผูกพันกับการฟังเพลงยุคนี้มาก ๆ ในตอนนั้นเองการฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ทก็ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีราคาที่ไม่แพง และความสะดวกในการใช้งานที่ง่าย อีกทั้งยังพกพาง่ายด้วย
ในช่วงต่อมาปี 1982 เมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น จึงทำให้เกิดการฟังเพลงด้วยซีดีขึ้นมา เป็นช่วงที่เราสามารถฟังเพลงได้ดีขึ้น และสามารถเลือกเพลงที่ต้องการฟังได้โดยที่ไม่ต้องฟังเรียงตามลำดับเหมือนก่อนหน้านี้ โดยซีดีเป็นสิ่งที่มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ราคาก็แรงกว่าการฟังจากเทปมากทีเดียว จากนั้นใน 1997 ก็มีสิ่งที่เรียกว่า MP3 ขึ้นมา เป็นการฟังเพลงผ่าน computer และเครื่องเล่น MP3 ตัวจิ๋ว ที่เราสามารถเก็บเพลงเอาไว้ได้เป็นร้อย ๆ เพลงเลย ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาการฟังเพลงที่ทันสมัย และช่วยเปิดโลกให้กับผู้คนในยุคนั้นเป็นอย่างมาก
จากนั้นในปี 2003 ก็ได้เกิดสิ่งที่เรียกว่ามิวสิคสตรีมมิ่งขึ้นมา โดยผู้คนได้ใช้ช่องทางการฟังเพลงผ่านมิวสิกสตรีมมิ่งกันเรื่อยมาจนถึงในปัจจุบัน มิวสิคสตรีมมิ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยทำให้การฟังเพลงของเรานั้นง่ายดายมากขึ้น เพราะผู้ใช้งานสามารถฟังเพลงได้ผ่านแอปพลิเคชันฟังเพลงที่ตอนนี้เรียกได้ว่ามีอยู่หลากหลายเจ้ามาก ๆ นอกจากที่เราจะได้ฟังเพลงในคุณภาพที่ดีขึ้นแล้ว ก็ยังได้ฟังเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์อีกด้วย เนื่องจากเราได้มีการจ่ายค่าบริการรายเดือนให้กับมิวสิคสตรีมมิ่งเจ้าต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นราคาค่าบริการก็ไม่ได้แพงเลย เมื่อเทียบกับคุณเพลงที่เราได้ฟัง แถมยังได้ฟังเพลงแบบถูกสิทธิ์ด้วยนั่นเอง